แนวข้อสอบกรุงเทพมหานคร (กทม) 100 ข้อ
........................................................
แนวข้อสอบ พระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการกรุงเทพมหานคร
1. พระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการกรุงเทพมหานคร พ.ศ. 2528 ตราเป็นกฎหมายเมื่อใด
ก. 20 มกราคม พ.ศ. 2528
ข. 20 มีนาคม พ.ศ. 2528
ค. 20 มิถุนายน พ.ศ. 2528
ง. 20 สิงหาคม พ.ศ. 2528
ตอบ ง. 20 สิงหาคม พ.ศ. 2528
2. พระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการกรุงเทพมหานคร ปัจจุบันปรับปรุงมาแล้วกี่ฉบับ
ก. 3 ฉบับ
ข. 4 ฉบับ
ค. 5 ฉบับ
ง. 6ฉบับ
ตอบ ค. 5 ฉบับ
ฉบับล่าสุด คือฉบับที่ 5 ปรับปรุงเมื่อ แก้ไขถึงฉบับที่ 5 พ.ศ. 2550
(ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2534 (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2539 (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2542
3. กรุงเทพมหานคร ได้มีการจัดระเบียบการบริหารราชการในพื้นที่กรุงเทพมหานครโดยการแบ่งเป็น “สำนักงานเขต” ปัจจุบันมีทั้งหมดกี่เขต
ก. 45 เขต
ข. 48 เขต
ค. 50 เขต
ง. 55 เขต
ตอบ ค. 50 เขต
กรุงเทพมหานคร ได้มีการจัดระเบียบการบริหารราชการในพื้นที่กรุงเทพมหานครโดยการแบ่งเป็น “สำนักงานเขต” (ปัจจุบันมี 50 สำนักงานเขต)
สำนักงานเขต จะมีผู้อำนวยเขตและสภาเขต สภาเขตประกอบด้วยสมาชิกซึ่งได้รับการเลือกตั้งจากราษฎรเขตละอย่างน้อย 7 คน สำหรับเขตที่มีราษฎรเกิน 100,000 คน ให้มีสมาชิกสภาเขตเพิ่มขึ้นโดยถือเกณฑ์ราษฎร 100,000 คนต่อสมาชิกหนึ่งคน สมาชิกอยู่ในตำแหน่งคราวละ 4 ปี
4. บุคคลใดเป็นผู้รักษาพระราชบัญญัติฉบับนี้
ก. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
ข. ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร
ค. ประธานสภากรุงเทพมหานคร
ง. ปลัดกระทรวงมหาดไทย
ตอบ ก. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
มาตรา 5 ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยรักษาการตามพระราชบัญญัตินี้
5. พระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการกรุงเทพมหานคร ให้กรุงเทพมหานคร เป็น…..
ก. ทบวงการเมือง
ข. เมืองหลวงของประเทศ
ค. ศูนย์กลางการบริหารราชการแผ่นดิน
ง. นิติบุคคลและเป็นราชการบริหารส่วนท้องถิ่น
ตอบ ง. นิติบุคคลและเป็นราชการบริหารส่วนท้องถิ่น
มาตรา 6 ให้กรุงเทพมหานครมีฐานะเป็นนิติบุคคลและเป็นราชการบริหารส่วนท้องถิ่น มีระเบียบการบริหารตามพระราชบัญญัตินี้และมีอาณาเขตท้องที่ตามที่กรุงเทพมหานครมีอยู่ในวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ
การแก้ไขเปลี่ยนแปลงอาณาเขตท้องที่กรุงเทพมหานครให้ตราเป็นพระราชบัญญัติ
6. การบริหารกรุงเทพมหานครประกอบด้วยกี่ส่วน
ก. ประกอบด้วย 2 ส่วน คือ ประธานสภากรุงเทพมหานคร และผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร
ข. ประกอบด้วย 2 ส่วน คือ สภากรุงเทพมหานคร และผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร
ค. ประกอบด้วย 3 ส่วน คือ ประธานสภากรุงเทพมหานคร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และผู้อำนวยการเขต
ง. ประกอบด้วย 3 ส่วน คือ สภากรุงเทพมหานคร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และสมาชิกสภาเขต
ตอบ ข. ประกอบด้วย 2 ส่วน คือ สภากรุงเทพมหานคร และผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร
มาตรา 9 การบริหารกรุงเทพมหานคร ประกอบด้วย
(1) สภากรุงเทพมหานคร
(2) ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร
7. ผู้มีสิทธิเลือกตั้งจะต้องมีคุณสมบัติตามข้อใด
ก. มีสัญชาติไทย
ข. อายุไม่ต่ำกว่าสิบแปดปีบริบูรณ์
ค. มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านไม่น้อยกว่าเก้าสิบวัน
ง. ถูกทั้ง ข้อ ก. ข. และ ค.
ตอบ ง. ถูกทั้ง ข้อ ก. ข. และ ค.
มาตรา 12 บุคคลผู้มีคุณสมบัติดังต่อไปนี้ เป็นผู้มีสิทธิเลือกตั้ง
(1) มีสัญชาติไทย แต่บุคคลผู้มีสัญชาติไทยโดยการแปลงสัญชาติต้องได้สัญชาติไทยมาแล้วไม่น้อยกว่าห้าปี
(2) มีอายุไม่ต่ำกว่าสิบแปดปีบริบูรณ์ในวันที่ 1 มกราคม ของปีที่มีการเลือกตั้ง และ
(3) มีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน ในเขตเลือกตั้งเป็นเวลาติดต่อกันจนถึงวันเลือกตั้ง ไม่น้อยกว่าเก้าสิบวัน
[มาตรา 12 แก้ไขโดยพระราชบัญญัติระเบียบบรืการราชการกรุงเทพมหานคร (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2539]
8. บุคคลที่ต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิเลือกตั้งสมาชิกสภากรุงเทพมหานครคือ
ก. เป็นหูหนวกหรือเป็นใบ้
ข. บุคคลล้มละลาย
ค. บุคคลวิกลจริต
ง. ติดยาเสพติดให้โทษ
ตอบ ค. บุคคลวิกลจริต
มาตรา 13 บุคคลผู้มีลักษณะใดลักษณะหนึ่งดังต่อไปนี้ในวันเลือกตั้งบุคคลต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิเลือกตั้งสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร คือ
(1) วิกลจริตหรือจิตฟั่นเฟือนไม่สมประกอบ
(2) [ยกเลิกโดยพระราชบัญญัติฯ (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2539]
(3) ภิกษุ สามเณร นักพรต หรือนักบวช
(4) ต้องคุมขังอยู่โดยหมายของศาลหรือคำสั่งที่ชอบด้วยกฎหมาย
(5) อยู่ในระหว่างถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง
9. ก.ก. เป็นคำย่อของอะไร
ก. คณะกรรมการกำหนดระเบียบข้าราชการ
ข. คณะกรรมการข้าราชการกรุงเทพมหานคร
ค. คณะกรรมการกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการกรุงเทพมหานคร
ง. คณะกรรมการกำหนดตำแหน่งและเงินเดือนข้าราชการกรุงเทพมหานคร
ตอบ ข. คณะกรรมการข้าราชการกรุงเทพมหานคร
มาตรา 15 ให้มีคณะกรรมการข้าราชการกรุงเทพมหานคร เรียกโดยย่อว่า “ก.ก.” ทำหน้าที่กำหนดหลักเกณฑ์และดำเนินการเกี่ยวกับการบริหารงานบุคคลของข้าราชการกรุงเทพมหานคร ประกอบด้วย
(1) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย หรือรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยซึ่งได้รับมอบหมายเป็นประธานกรรมการ
(2) กรรมการโดยตำแหน่งประกอบด้วย ปลัดกระทรวงมหาดไทย เลขาธิการ ก.พ. เลขาธิการ ก.ค. และอธิบดีกรมบัญชีกลาง
(3) กรรมการซึ่งเป็นผู้แทนกรุงเทพมหานครจำนวนห้าคนโดยประกอบด้วย ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ปลัดกรุงเทพมหานคร ผู้แทนข้าราชการกรุงเทพมหานครสามัญ ซึ่งคัดเลือกกันเองจำนวนสองคน และผู้แทนข้าราชการครูกรุงเทพมหานครซึ่งคัดเลือกกันเองจำนวนหนึ่งคน
(4) กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจำนวนห้าคน ซึ่งกรรมการตาม (1) (2) และ (3) ประชุมร่วมกันคัดเลือกจากบุคคลซึ่งมีความรู้ความเชี่ยวชาญในด้านการบริหารงานส่วนท้องถิ่น ด้านการบริหารงานบุคคล ด้านระบบราชการ ด้านบริหารและการจัดการ หรือด้านอื่นที่จะเป็นประโยชน์ต่อการบริการงานบุคคลของกรุงเทพมหานคร
10. ประธานคณะกรรมการข้าราชการกรุงเทพมหานครคือใคร
ก. นายกรัฐมนตรี
ข. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
ค. ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร
ง. ปลัดกรุงเทพมหานคร
ตอบ ข. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
ดูคำอธิบายข้อข้างต้น
11. ผู้ทรงคุณวุฒิที่กำหนดไว้ในคณะกรรมการข้าราชการกรุงเทพมหานครต้องมีจำนวนเท่าใด
ก. ไม่เกิน 6 คน
ข. ไม่ต่ำกว่า 3 คน แต่ไม่เกิน 5 คน
ค. ไม่เกิน 7 คน
ง. ไม่เกิน 5 คน
ตอบ ง. ไม่เกิน 5 คน
ดูคำอธิบายข้อข้างต้น
12. สภากรุงเทพมหานคร มีวาระการปฏิบัติหน้าที่คราวละกี่ปี
ก. 1 ปี
ข. 2 ปี
ค. 3 ปี
ง. 4 ปี
ตอบ ง. 4 ปี
มาตรา 17 อายุของสภากรุงเทพมหานครมีกำหนดคราวละสี่ปี นับแต่วันเลือกตั้งสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร
เมื่ออายุของสภากรุงเทพมหานครสิ้นสุดลง ให้จัดการเลือกตั้งสมาชิกสภากรุงเทพมหานครขึ้นใหม่เป็นการเลือกตั้งทั่วไป ซึ่งต้องกำหนดวันเลือกตั้งภายในหกสิบวัน นับแต่วันที่อายุของสภากรุงเทพมหานครสิ้นสุดลง และวันเลือกตั้งนั้นต้องกำหนดวันเดียวกันทั่วกรุงเทพมหานคร
13. เครื่องแบบของข้าราชการกรุงเทพมหานครและระเบียบการแต่งกายกำหนดโดย
ก. พระราชกฤษฎีกา
ข. พระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการกรุงเทพมหานคร
ค. กฎกระทรวง
ง. พระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน
ตอบ ก. พระราชกฤษฎีกา
มาตรา 19 เครื่องแบบของข้าราชการกรุงเทพมหานครและระเบียบการแต่งเครื่องแบบให้เป็นไปตามที่กำหนดโดยพระราชกฤษฎีกา
14. สมาชิกภาพของสมาชิกสภากรุงเทพมหานครสิ้นสุดลงด้วยเหตุใด
ก. ถูกจำคุกโดยคำพิพากษา
ข. ถึงคราวออกตามอายุของสภากรุงเทพมหานคร
ค. ลาออกโดยยื่นหนังสือลาออกต่อประธานสภากรุงเทพมหานคร
ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง. ถูกทุกข้อ
มาตรา 23 สมาชิกภาพของสมาชิกสภากรุงเทพมหานครสิ้นสุดลงด้วยเหตุใดเหตุหนึ่ง ดังต่อไปนี้
(1) ถึงคราวออกตามอายุของสภากรุงเทพมหานครหรือมีการยุบสภากรุงเทพมหานคร
(2) ตาย
(3) ลาออกโดยยื่นหนังสือลาออกต่อประธานสภากรุงเทพมหานครและให้มีผลนับแต่วันถัดจากวันยื่นหนังสือลาออก
(4) ขาดคุณสมบัติตาม มาตรา 14 หรือมีลักษณะต้องห้ามตาม มาตรา 16 เว้นแต่กรณีตาม มาตรา 16 (4)
(5) กระทำการอันต้องห้ามตาม มาตรา 22
(6) ถูกจำคุกโดยคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก เว้นแต่ความผิดอันได้กระทำโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ
(7) ขาดการประชุมสภากรุงเทพมหานครตลอดสมัยประชุมที่มีกำหนดเวลาไม่น้อยกว่าสามสิบวัน โดยไม่ได้รับอนุญาตจากประธานสภากรุงเทพมหานคร
(8) สภากรุงเทพมหานครวินิจฉัยให้ออกเพราะเห็นว่า ได้กระทำการอันเป็นการเสื่อมเสียแก่เกียรติศักดิ์ของตำแหน่ง มติของสภากรุงเทพมหานครในข้อนี้ต้องมีคะแนนเสียง ไม่น้อยกว่าสองในสามของจำนวนสมาชิกทั้งหมดของสภากรุงเทพมหานคร ทั้งนี้ ให้มีผลตั้งแต่วันที่สภากรุงเทพมหานครลงมติ
(9) ราษฎรผู้มีสิทธิเลือกตั้งในเขตกรุงเทพมหานครได้ลงคะแนนเสียงให้พ้นจากตำแหน่งตามกฎหมายว่าด้วยการลงคะแนนเสียงเพื่อถอดถอนสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น และถ้าสมาชิกภาพของสมาชิกสภากรุงเทพมหานครสิ้นสุดลงพร้อมกันทั้งหมดเพราะเหตุดังกล่าว ให้ถือว่าเป็นการยุบสภากรุงเทพมหานครในกรณีตาม (8)ข ให้กระทำเมื่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยร้องขอ หรือเมื่อสมาชิกสภากรุงเทพมหานครไม่น้อยกว่าหนึ่งในสามของจำนวนสมาชิกทั้งหมดเข้าชื่อเสนอเป็นญัตติให้สภากรุงเทพมหานครพิจารณา
15. ประธานสภาและรองประธานสภากรุงเทพมหานคร จะดำรงตำแหน่งประธานและรองประธานสภากรุงเทพมหานครได้เมื่อใด
ก. เมื่อผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครประกาศรายชื่อ
ข. เมื่อประธานสภากรุงเทพมหานครประกาศรายชื่อ
ค. เมื่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยประกาศรายชื่อ
ง. ดำรงตำแหน่งทันทีที่ได้รับเลือก
ตอบ ค. เมื่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยประกาศรายชื่อ
มาตรา 25 ให้สภากรุงเทพมหานครเลือกสมาชิกสภากรุงเทพมหานครเป็นประธานสภากรุงเทพมหานครคนหนึ่งและรองประธานสภากรุงเทพมหานครไม่เกินสองคน โดยให้ดำรงตำแหน่งทันทีที่ได้รับเลือก
ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยประกาศชื่อประธานสภาและรองประธานสภากรุงเทพมหานครผู้ได้รับเลือกในราชกิจจานุเบกษา ประธานสภาและรองประธานสภากรุงเทพมหานครดำรงตำแหน่งตามวาระคราวละสองปี
16. ในปีหนึ่งกฎหมายได้บัญญัติให้มีสมัยประชุมสามัญของสภากรุงเทพมหานครไว้อย่างไร
ก. สมัยประชุมสามัญมีจำนวน 2 สมัย
ข. สมัยประชุมสามัญมีจำนวน 3 สมัย
ค. สมัยประชุมสามัญมีจำนวนไม่น้อยกว่า 2 สมัย แต่ต้องไม่เกิน 3 สมัย
ง. สมัยประชุมสามัญมีจำนวนไม่น้อยกว่า 2 สมัย แต่ต้องไม่เกิน 4 สมัย
ตอบ ง. สมัยประชุมสามัญมีจำนวนไม่น้อยกว่า 2 สมัย แต่ต้องไม่เกิน 4 สมัย
มาตรา 30 ภายในสิบห้าวันนับแต่วันเลือกตั้งสมาชิกสภากรุงเทพมหานครอันเป็นการเลือกตั้งทั่วไป ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยเรียกประชุมสภากรุงเทพมหานครเพื่อให้สมาชิกได้มาประชุมเป็นครั้งแรก
ในปีหนึ่งให้มีสมัยประชุมสามัญของสภากรุงเทพมหานครไม่น้อยกว่าสองสมัยแต่ต้องไม่เกินสี่สมัย จำนวนสมัยประชุมสามัญและวันเริ่มสมัยประชุมสามัญประจำปีแต่ละสมัยให้สภากรุงเทพมหานครกำหนด
17. ใครเป็นผู้นัดประชุมสภากรุงเทพมหานครเพื่อให้สมาชิกได้มาประชุมเป็นครั้งแรก
ก. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
ข. ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร
ค. ประธานสภากรุงเทพมหานคร
ง. ผู้อำนวยการเขต
ตอบ ก. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
ดูคำอธิบายข้อข้างต้น
18. การประชุมสภากรุงเทพมหานครจะต้องมีสมาชิกเข้าร่วมประชุมตามข้อใด จึงจะเป็นองค์ประชุม
ก. ประธานและสมาชิกต้องเข้าร่วมประชุมจึงจะเป็นองค์ประชุม
ข. ประธานและสมาชิกไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งจึงจะเป็นองค์ประชุม
ค. สมาชิกไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิกทั้งหมดจึงจะเป็นองค์ประชุม
ง. สมาชิกไม่น้อยกว่าสองในสามของจำนวนสมาชิกทั้งหมดจึงจะเป็นองค์ประชุม
ตอบ ค. สมาชิกไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิกทั้งหมดจึงจะเป็นองค์ประชุม
มาตรา 32 การประชุมสภากรุงเทพมหานครทุกคราวต้องมีสมาชิกมาประชุมไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิกทั้งหมดจึงจะเป็นองค์ประชุม
ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และหรือผู้ที่ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครมอบหมาย มีสิทธิเข้าประชุมสภากรุงเทพมหานคร และมีสิทธิแถลงข้อเท็จจริงหรือแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับงานในหน้าที่ต่อที่ประชุมแต่ไม่มีสิทธิออกเสียงลงคะแนน
19. สมาชิกสภากรุงเทพมหานครตามข้อใด จึงจะมีสิทธิเข้าชื่อเสนอญัตติขอให้เปิดอภิปรายทั่วไป
ก. สมาชิกสภากรุงเทพมหานครทั้งหมด
ข. สมาชิกสภากรุงเทพมหานครจำนวนไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของสมาชิกทั้งหมด
ค. สมาชิกสภากรุงเทพมหานครจำนวนไม่น้อยกว่าสองในสามของสมาชิกทั้งหมด
ง. สมาชิกสภากรุงเทพมหานครจำนวนไม่น้อยกว่าสองในห้าของสมาชิกทั้งหมด
ตอบ ง. สมาชิกสภากรุงเทพมหานครจำนวนไม่น้อยกว่าสองในห้าของสมาชิกทั้งหมด
มาตรา 37 สมาชิกสภากรุงเทพมหานครจำนวนไม่น้อยกว่าสองในห้าของจำนวนสมาชิกทั้งหมดมีสิทธิเข้าชื่อเสนอญัตติขอให้เปิดอภิปรายทั่วไป เพื่อให้ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครแถลงข้อเท็จจริงหรือแสดงความคิดเห็นในปัญาอันเกี่ยวกับการบริหารราชการกรุงเทพมหานคร
20. คณะกรรมการสามัญของสภากรุงเทพมหานคร มีวาระการปฏิบัติหน้าที่คราวละกี่ปี
ก. 1 ปี
ข. 2 ปี
ค. 3 ปี
ง. จดหมดวาระของสภากรุงเทพมหานคร
ตอบ ข. 2 ปี
มาตรา 42 คณะกรรมการสามัญของสภากรุงเทพมหานคร ให้มีวาระการปฏิบัติหน้าที่คราวละสองปี คณะกรรมการวิสามัญตาม มาตรา 38 และ มาตรา 39 ให้สิ้นสภาพไปหลังจากที่ได้ปฏิบัติงานที่ได้รับมอบหมายและเสนอรายงานต่อสภากรุงเทพมหานครเรียบร้อยแล้ว
21. เมื่อตำแหน่งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครว่างลงโดยการลาออก ต้องเลือกตั้งผู้ว่าฯ ใหม่ภายในกี่วัน
ก. 30 วัน
ข. 60 วัน
ค. 90 วัน
ง. 120 วัน
ตอบ ค. 90 วัน
มาตรา 47 ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครมีวาระอยู่ในตำแหน่งคราวละสี่ปีนับแต่วันเลือกตั้ง
เมื่อผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครพ้นจากตำแหน่งตามวาระ ให้จัดการเลือกตั้งขึ้นใหม่ภายในหกสิบวันนับแต่วันสิ้นสุดวาระ แต่ถ้าตำแหน่งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครว่างลงโดยเหตุอื่น ให้ทำการเลือกตั้งขึ้นใหม่ภายในเก้าสิบวัน และให้ผู้ได้รับการเลือกตั้งอยู่ตำแหน่งโดยเริ่มนับวาระใหม่
22. ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ต้องยื่นใบลาออกต่อใครจึงจะมีผลตามกฎหมาย
ก. คณะรัฐมนตรี
ข. นายกรัฐมนตรี
ค. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
ง. ประธานสภากรุงเทพมหานคร
ตอบ ค. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
มาตรา 52 ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครพ้นจากตำแหน่งด้วยเหตุใดเหตุหนึ่ง ดังต่อไปนี้
(1) ถึงคราวออกตามวาระ
(2) ตาย
(3) ลาออก โดยยื่นหนังสือลาออกต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยและให้มีผลนับแต่วันถัดจากวันที่ยื่นหนังสือลาออก
(4) ขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามตามที่บัญญัติไว้ใน มาตรา 46 ยกเว้นลักษณะต้องห้ามตาม มาตรา 16 (4)ฯลฯ
23. รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร มีจำนวนกี่คน
ก. 2 คน
ข. 3 คน
ค. ไม่เกิน 3 คน
ง. ไม่เกิน 4 คน
ตอบ ง. ไม่เกิน 4 คน
มาตรา 55 ให้มีรองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครจำนวนไม่เกินสี่คนตามลำดับที่ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครจัดไว้ ช่วยผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครในการบริหารราชการของกรุงเทพมหานครตามที่ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครมีคำสั่งมอบหมาย
คำสั่งแต่งตั้งรองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครให้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา
24. การแต่งตั้งประธานที่ปรึกษา ที่ปรึกษา และคณะที่ปรึกษาของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ตำแหน่งดังกล่าวจะมีจำนวนรวมกันทั้งหมดกี่คน
ก. ไม่เกิน 3 คน
ข. ไม่เกิน 5 คน
ค. ไม่เกิน 7 คน
ง. ไม่เกิน 9 คน
ตอบ ง. ไม่เกิน 9 คน
มาตรา 57 ในกรณีที่มีการแต่งตั้งประธานที่ปรึกษา ที่ปรึกษา และคณะที่ปรึกษาของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ตาม มาตรา 49 (3) ตำแหน่งดังกล่าวจะมีจำนวนรวมกันทั้งหมดเกินเก้าคนไม่ได้
25. บุคคลต่อไปนี้ ข้อใดที่เป็นข้าราชการการเมือง
ก. หัวหน้าเขต
ข. ปลัดกรุงเทพมหานคร
ค. ผู้อำนวยการสำนัก
ง. ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร
ตอบ ง. ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร
มาตรา 58 ให้ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เลขานุการผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ผู้ช่วยเลขานุการผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เลขานุการประธานสภากรุงเทพมหานคร เลขานุการรองประธานสภากรุงเทพมหานคร ประธานที่ปรึกษาและที่ปรึกษา เป็นข้าราชการการเมืองตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการการเมือง
26. หน่วยงานที่มีอำนาจหน้าที่เกี่ยวกับราชการประจำของสภากรุงเทพมหานคร คือหน่วยงานใด
ก. สำนักงานเลขานุการสภากรุงเทพมหานคร
ข. สำนักงานเลขานุการผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร
ค. สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการกรุงเทพมหานคร
ง. สำนักงานปลัดกรุงเทพมหานคร
ตอบ ก. สำนักงานเลขานุการสภากรุงเทพมหานคร
มาตรา 61 สำนักงานเลขานุการสภากรุงเทพมหานครมีอำนาจหน้าที่เกี่ยวกับราชการประจำของสภากรุงเทพมหานคร มีเลขานุการสภากรุงเทพมหานครซึ่งเป็นข้าราชการกรุงเทพมหานครสามัญเป็นผู้บังคับบัญชาข้าราชการกรุงเทพมหานคร และลูกจ้างกรุงเทพมหานครขึ้นต่อปลัดกรุงเทพมหานคร และรับผิดชอบในการปฏิบัติราชการของสำนักงานเลขานุการสภากรุงเทพมหานครขึ้นต่อประธานสภากรุงเทพมหานคร และมีผู้ช่วยเลขานุการสภากรุงเทพมหานครซึ่งเป็นข้าราชการกรุงเทพมหานครสามัญ เป็นผู้ช่วยสั่งหรือปฏิบัติราชการแทนเลขานุการสภากรุงเทพมหานคร
27. ผู้บังคับบัญชาในส่วนราชการใดของกรุงเทพมหานครที่มีผู้บังคับบัญชาเป็นข้าราชการการเมือง
ก. สำนักงานเลขานุการสภากรุงเทพมหานคร
ข. สำนักงานเลขานุการผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร
ค. สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการกรุงเทพมหานคร
ง. สำนักงานปลัดกรุงเทพมหานคร
ตอบ ข. สำนักงานเลขานุการผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร
มาตรา 62 สำนักงานเลขานุการผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครมีอำนาจหน้าที่เกี่ยวกับราชการและงานของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร มีเลขานุการผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครซึ่งเป็นข้าราชการการเมือง เป็นผู้บังคับบัญชาข้าราชการกรุงเทพมหานครและลูกจ้างกรุงเทพมหานคร รับผิดชอบในการปฏิบัติราชการของสำนักงานเลขานุการผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครขึ้นต่อผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และมีผู้ช่วยเลขานุการผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครซึ่งเป็นข้าราชการการเมือง เป็นผู้ช่วยสั่งหรือปฏิบติราชการแทนเลขานุการผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร
28. ข้อใดไม่ใช่อำนาจหน้าที่ของผู้อำนวยการเขต
ก. อำนาจหน้าที่ของนายอำเภอ
ข. อำนาจหน้าที่ซึ่งผู้อำนวยการสำนักมอบหมาย แอ็คกรุ๊ป
ค. อำนาจหน้าที่ซึ่งปลัดกรุงเทพมหานครมอบหมาย
ง. อำนาจหน้าที่ซึ่งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครมอบหมาย
ตอบ ข. อำนาจหน้าที่ซึ่งผู้อำนวยการสำนักมอบหมาย แอ็คกรุ๊ป
มาตรา 69 ให้ผู้อำนวยการเขตมีอำนาจหน้าที่ ดังนี้
(1) อำนาจหน้าที่ตามที่กฎหมายบัญญัติให้เป็นอำนาจหน้าที่ของนายอำเภอ เว้นแต่พระราชบัญญัตินี้จะบัญญัติไว้เป็นอย่างอื่น
(2) อำนาจหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนดให้เป็นอำนาจหน้าที่ของผู้อำนวยการเขต
(3) อำนาจหน้าที่ซึ่งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร หรือปลัดกรุงเทพมหานครมอบหมาย
29. ในเขตหนึ่งๆ ให้มีสภาเขตอย่างน้อยกี่คน
ก. อย่างน้อย 5 คน
ข. อย่างน้อย 7 คน
ค. อย่างน้อย 9 คน
ง. อย่างน้อย 11 คน
ตอบ ข. อย่างน้อย 7 คน
มาตรา 71 ในเขตหนึ่งๆ ให้มีสภาเขต ประกอบด้วย สมาชิกซึ่งมาจากการเลือกตั้งมีจำนวนอย่างน้อยเขตละเจ็ดคน ถ้าเขตใดมีราษฎรเกินหนึ่งแสนคนให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาเขตในเขตนั้นเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งคนต่อจำนวนราษฎรทุกหนึ่งแสนคน เศษของหนึ่งแสนถ้าถึงห้าหมื่นหรือกว่านั้นให้นับเป็นหนึ่งแสน
30. เขตแห่งหนึ่งมีราษฎรทั้งหมด 200,000 คน จะต้องมีสภาเขตได้เท่าไร
ก. 7 คน
ข. 8 คน
ค. 9 คน
ง. 10 คน
ตอบ ค. 9 คน
ดูคำอธิบายข้อข้างต้น
แนวข้อสอบ พระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการกรุงเทพมหานครและบุคลากรกรุงเทพมหานคร พ.ศ. ๒๕๕๔
31. พระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการกรุงเทพมหานครและบุคลากรกรุงเทพมหานคร พ.ศ. ๒๕๕๔ ให้ไว้ ณ วันที่เท่าใด
ก. ๒๓ มกราคม พ.ศ. ๒๕๕๔
ข. ๒๓ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๕๔
ค. ๒๓ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๕๔
ง. ๒๓ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๕๔
ตอบ ค. ๒๓ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๕๔
32. ข้อบัญญัตินี้มีผลบังคับใช้เมื่อใด
ก. ทันทีที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษา
ข. หลังจากประกาศในราชกิจจานุเบกษาหนึ่งวัน
ค. หลังจากประกาศในราชกิจจานุเบกษาหนึ่งอาทิตย์
ง. หลังจากประกาศในราชกิจจานุเบกษาหนึ่งเดือน
ตอบ ข. หลังจากประกาศในราชกิจจานุเบกษาหนึ่งวัน
มาตรา ๒ พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
33. พระราชบัญญัติฉบับนี้ได้ประกาศยกเลิก
ก. พระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการกรุงเทพมหานคร พ.ศ. ๒๕๒๘
ข. พระราชบัญญัติระเบียบบุคลากรกรุงเทพมหานคร พ.ศ. ๒๕๒๘
ค. พระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการกรุงเทพมหานครและบุคลากรกรุงเทพมหานคร พ.ศ. ๒๕๒๘
ง. พระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการกรุงเทพมหานครและบุคลากรกรุงเทพมหานคร พ.ศ. ๒๕๔๕
ตอบ ก. พระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการกรุงเทพมหานคร พ.ศ. ๒๕๒๘
มาตรา ๓ ให้ยกเลิก
(๑) พระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการกรุงเทพมหานคร พ.ศ. ๒๕๒๘
(๒) พระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการกรุงเทพมหานคร (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๔๒
34. “ข้าราชการกรุงเทพมหานคร” หมายความว่า
ก. ข้าราชการกรุงเทพมหานครซึ่งทำหน้าที่หลักทางด้านการสอนและการวิจัยในสถาบันอุดมศึกษาตามที่ ก.ก. กำหนด
ข. บุคคลซึ่งได้รับการจ้างตามสัญญาจ้างโดยได้รับค่าตอบแทนจากเงินงบประมาณหมวดค่าตอบแทนของกรุงเทพมหานคร
ค. ข้าราชการกรุงเทพมหานครซึ่งรับราชการในสังกัดกรุงเทพมหานคร แต่ไม่รวมถึงข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษากรุงเทพมหานคร
ง. บุคคลซึ่งได้รับการบรรจุและแต่งตั้งให้รับราชการโดยได้รับเงินเดือนจากเงินงบประมาณหมวดเงินเดือนของกรุงเทพมหานคร
ตอบ ง. บุคคลซึ่งได้รับการบรรจุและแต่งตั้งให้รับราชการโดยได้รับเงินเดือนจากเงินงบประมาณหมวดเงินเดือนของกรุงเทพมหานคร
มาตรา ๔ ในพระราชบัญญัตินี้
“ข้าราชการกรุงเทพมหานคร” หมายความว่า บุคคลซึ่งได้รับการบรรจุและแต่งตั้งให้รับราชการโดยได้รับเงินเดือนจากเงินงบประมาณหมวดเงินเดือนของกรุงเทพมหานครหรือจากเงินงบประมาณหมวดเงินอุดหนุนของรัฐบาลที่ให้แก่กรุงเทพมหานครและกรุงเทพมหานครนำมาจัดเป็นเงินเดือนของข้าราชการกรุงเทพมหานคร
35. บุคคลใดเป็นผู้รักษาพระราชบัญญัติฉบับนี้
ก. นายกรัฐมนตรี
ข. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
ค. ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร
ง. ประธานสภากรุงเทพมหานคร
ตอบ ก. นายกรัฐมนตรี
มาตรา ๖ ให้นายกรัฐมนตรีรักษาการตามพระราชบัญญัติ
36. ก.ก. เป็นคำย่อของอะไร
ก. คณะกรรมการกำหนดระเบียบข้าราชการ
ข. คณะกรรมการข้าราชการกรุงเทพมหานคร
ค. คณะกรรมการกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการกรุงเทพมหานคร
ง. คณะกรรมการกำหนดตำแหน่งและเงินเดือนข้าราชการกรุงเทพมหานคร
ตอบ ข. คณะกรรมการข้าราชการกรุงเทพมหานคร
มาตรา ๗ ให้มีคณะกรรมการคณะหนึ่งเรียกว่า “คณะกรรมการข้าราชการกรุงเทพมหานครและบุคลากรกรุงเทพมหานคร” เรียกโดยย่อว่า “ก.ก.” ประกอบด้วย
(๑) ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานกรรมการ
(๒) กรรมการโดยตำแหน่ง จำนวนห้าคน ได้แก่ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เลขาธิการ ก.พ. เลขาธิการ ก.พ.ร. เลขาธิการ ก.ค.ศ. และเลขาธิการคณะกรรมการอุดมศึกษา
(๓) กรรมการซึ่งเป็นผู้แทนกรุงเทพมหานคร จำนวนสี่คน ได้แก่รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครซึ่งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครมอบหมาย ปลัดกรุงเทพมหานคร ผู้แทนบุคลากรกรุงเทพมหานคร
(๔) กรรมการซึ่งเป็นผู้แทนข้าราชการกรุงเทพมหานครโดยข้าราชการกรุงเทพมหานครแต่ละประเภทคัดเลือกกันเอง จำนวนห้าคน ได้แก่
(ก) ผู้แทนข้าราชการกรุงเทพมหานครสามัญ จำนวนสองคน
(ข) ผู้แทนข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษากรุงเทพมหานคร จำนวนสองคน
(ค) ผู้แทนข้าราชการกรุงเทพมหานครในสถาบันอุดมศึกษา จำนวนหนึ่งคน
(๕) กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ซึ่งกรรมการตาม (๑) (๒) (๓) และ (๔) ประชุมร่วมกันคัดเลือกจากบุคคลซึ่งมีความรู้ ความเชี่ยวชาญ และมีผลงานเป็นที่ประจักษ์ในด้านการบริหารงานส่วนท้องถิ่น ด้านการบริหารทรัพยากรบุคคล ด้านระบบราชการ ด้านการบริหารและการจัดการด้านกฎหมาย ด้านการศึกษา หรือด้านอื่นที่เป็นประโยชน์แก่การบริหารทรัพยากรบุคคลของกรุงเทพมหานคร จำนวนห้าคน
37. ประธานคณะกรรมการข้าราชการกรุงเทพมหานครคือใคร
ก. นายกรัฐมนตรี
ข. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
ค. ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร
ง. ปลัดกรุงเทพมหานคร
ตอบ ค. ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร
38. กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิที่กำหนดไว้ในคณะกรรมการข้าราชการกรุงเทพมหานครต้องมีจำนวนเท่าใด
ก. จำนวน ๙ คน
ข. จำนวน ๗ คน
ค. จำนวน ๕ คน
ง. จำนวน ๓ คน
ตอบ ค. จำนวน ๕ คน
ดูคำอธิบายข้อข้างต้น
39. กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิต้องมีคุณสมบัติดังต่อไปนี้ ยกเว้นข้อใด
ก. มีสัญชาติไทย
ข. อายุไม่ต่ำกว่าสี่สิบปีบริบูรณ์
ค. ไม่เป็นบุคคลล้มละลาย
ง. มีเงินเดือนประจำ
ตอบ ง. มีเงินเดือนประจำ
มาตรา ๘ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิต้องมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามดังต่อไปนี้
(๑) มีสัญชาติไทย
(๒) มีอายุไม่ต่ำกว่าสี่สิบปีบริบูรณ์
(๓) ไม่เป็นบุคคลล้มละลาย คนไร้ความสามารถ หรือคนเสมือนไร้ความสามารถ
(๔) ไม่เคยได้รับโทษจำคุกโดยคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก เว้นแต่เป็นโทษสำหรับความผิดที่ได้กระทำโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ
(๕) ไม่เป็นข้าราชการซึ่งมีตำแหน่งหรือเงินเดือนประจำ
ฯลฯ
40. กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ มีวาระการดำรงตำแหน่งคราวละกี่ปี
ก. ๑ ปี
ข. ๒ ปี
ค. ๓ ปี
ง. ๔ ปี
ตอบ ง. ๔ ปี
มาตรา ๙ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิและกรรมการซึ่งเป็นผู้แทนข้าราชการกรุงเทพมหานครมีวาระการดำรงตำแหน่งคราวละสี่ปี
เมื่อครบกำหนดตามวาระในวรรคหนึ่ง หากยังมิได้มีการคัดเลือกกรรมการขึ้นใหม่ให้กรรมการซึ่งพ้นจากตำแหน่งตามวาระนั้นอยู่ในตำแหน่งเพื่อปฏิบัติหน้าที่ต่อไปจนกว่ากรรมการซึ่งได้รับคัดเลือกใหม่เข้ารับหน้าที่
41. นอกจากพ้นจากตำแหน่งตามวาระ กรรมการซึ่งเป็นผู้แทนข้าราชการกรุงเทพมหานครจะต้องยื่นหนังสือลาออกต่อบุคคลใดจึงจะเป็นผล
ก. นายกรัฐมนตรี
ข. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
ค. ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร
ง. ประธานกรรมการ ก.ก.
ตอบ ง. ประธานกรรมการ ก.ก.
มาตรา ๑๑ นอกจากพ้นจากตำแหน่งตามวาระ กรรมการซึ่งเป็นผู้แทนข้าราชการกรุงเทพมหานครพ้นจากตำแหน่งเมื่อ
(๑) ตาย
(๒) ลาออก โดยยื่นหนังสือลาออกต่อประธานกรรมการ
(๓) พ้นจากการเป็นข้าราชการประเภทที่ตนเป็นผู้แทน
42. ในกรณีที่กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิพ้นจากตำแหน่งก่อนวาระ ให้ดำเนินการคัดเลือกกรรมการผู้ทรงคุณวุฒินั้นภายในกี่วันนับแต่วันที่กรรมการผู้นั้นพ้นจากตำแหน่ง
ก. ๗ วัน
ข. ๑๕ วัน
ค. ๓๐ วัน
ง. ๔๕ วัน
ตอบ ค. ๓๐ วัน
มาตรา ๑๒ ในกรณีที่กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิหรือกรรมการซึ่งเป็นผู้แทนข้าราชการกรุงเทพมหานครพ้นจากตำแหน่งก่อนวาระ ให้ดำเนินการคัดเลือกกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิหรือกรรมการซึ่งเป็นผู้แทนข้าราชการประเภทนั้นแทนภายในสามสิบวันนับแต่วันที่กรรมการผู้นั้นพ้นจากตำแหน่ง และให้ผู้ได้รับคัดเลือกแทนตำแหน่งที่ว่างอยู่ในตำแหน่งเท่ากับวาระที่เหลืออยู่ของกรรมการซึ่งได้คัดเลือกไว้แล้ว เว้นแต่วาระของกรรมการผู้นั้นเหลือไม่ถึงหนึ่งร้อยแปดสิบวันจะไมม่ดำเนินการคัดเลือกกรรมการแทนก็ได้
43. ข้อใดมิใช่อำนาจของคณะกรรมการข้าราชการกรุงเทพมหานคร
ก. ให้คำแนะนำแก่ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร
ข. พิจารณากำหนดตำแหน่ง จำนวนของข้าราชการกรุงเทพมหานครสามัญ
ค. ให้ความเห็นชอบกรอบอัตรากำลังของหน่วยงานในกรุงเทพมหานคร
ง. กำหนดอัตราค่าธรรมเนียมในการปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้
ตอบ ข. พิจารณากำหนดตำแหน่ง จำนวนของข้าราชการกรุงเทพมหานครสามัญ
มาตรา ๑๔ ก.ก. มีอำนาจหน้าที่ดังต่อไปนี้
(๑) ให้คำแนะนำแก่ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร
(๒) ร่วมกับผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครเสนอให้มีการตราพระราชกฤษฎีกาตาม มาตรา ๔๔
(๓) ออกกฎ ก.ก. ข้อบังคับ หรือระเบียบ เพื่อกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และมาตรฐานเกี่ยวกับการบริหารทรัพยากรบุคคลเพื่อปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้
(๔) ให้ความเห็นชอบการตั้ง ยุบ หรือเปลี่ยนแปลงสำนัก หรือการแบ่งส่วนราชการภายในหน่วยงานของกรุงเทพมหานคร
(๕) ให้ความเห็นชอบกรอบอัตรากำลังของหน่วยงานในกรุงเทพมหานคร
(๖) พิจารณาเทียบตำแหน่งและระดับตำแหน่งของข้าราชการกรุงเทพมหานครฯลฯ
44. กรรมการ ก.พ.ค. กรุงเทพมหานคร มีวาระในการดำรงตำแหน่งกี่ปี
ก. สองปี
ข. สี่ปี
ค. หกปี
ง. แปดปี
ตอบ ค. หกปี
มาตรา ๓๕ กรรมการ ก.พ.ค. กรุงเทพมหานคร มีวาระการดำรงตำแหน่งหกปีนับแต่วันที่นายกรัฐมนตรีแต่งตั้ง และให้ดำรงตำแหน่งได้เพียงวาระเดียว
ให้กรรมการ ก.พ.ค. กรุงเทพมหานคร ซึ่งพ้นจากตำแหน่งตามวาระ อยู่ในตำแหน่งเพื่อปฏิบัติหน้าที่ต่อไปจนกว่านายกรัฐมนตรีจะแต่งตั้งกรรมการ ก.พ.ค. กรุงเทพมหานคร ใหม่
45. กรรมการ ก.พ.ค. กรุงเทพมหานคร จะดำรงตำแหน่งกรรมการ ก.พ.ค. กรุงเทพมหานครได้เมื่อใด
ก. เมื่อผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครแต่งตั้ง
ข. เมื่อประธานสภากรุงเทพมหานครแต่งตั้ง
ค. เมื่อนายกรัฐมนตรีแต่งตั้ง
ง. ดำรงตำแหน่งทันทีที่ได้รับเลือก
ตอบ ค. เมื่อนายกรัฐมนตรีแต่งตั้ง
ดูคำอธิบายข้อข้างต้น
46. ข้อใดต่อไปนี้มิใช่ข้าราชการกรุงเทพมหานคร
ก. ข้าราชการกรุงเทพมหานคร
ข. ข้าราชการกรุงเทพมหานครสามัญ
ค. ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษากรุงเทพมหานคร
ง. ข้าราชการกรุงเทพมหานครในสถาบันอุดมศึกษา
ตอบ ก. ข้าราชการกรุงเทพมหานคร
มาตรา ๔๒ ข้าราชการกรุงเทพมหานครมี ๓ ประเภท คือ
(๑) ข้าราชการกรุงเทพมหานครสามัญ
(๒) ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษากรุงเทพมหานคร
(๓) ข้าราชการกรุงเทพมหานครในสถาบันอุดมศึกษา
47. ผู้ที่จะเข้ารับราชการเป็นข้าราชการกรุงเทพมหานครห้ามดำรงตำแหน่งในข้อใด
ก. กรรมการโครงการของรัฐบาล
ข. ผู้ทรงคุณวุฒิในหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ
ค. ประธานกรรมการบริษัท
ง. ดำรงตำแหน่งทางการเมือง
ตอบ ง. ดำรงตำแหน่งทางการเมือง
ผู้ที่จะเข้ารับราชการเป็นข้าราชการกรุงเทพมหานครผู้ใดเป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง หรือเป็นกรรมการ หรือผู้ดำรงตำแหน่งที่รับผิดชอบในการบริหารพรรคการเมือง หรือเจ้าหน้าที่ในพรรคการเมือง ผู้นั้นต้องลาออกจากการดำรงตำแหน่งหรือการประกอบอาชีพนั้นและการลาออกต้องมีผลก่อนวันบรรจุเข้ารับราชการ
48. วันเวลาทำงาน วันหยุดราชการตามประเพณี วันหยุดราชการประจำปีและการลาหยุดราชการของข้าราชการกรุงเทพมหานครกำหนดโดย
ก. สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการกรุงเทพมหานครา
ข. คณะกรรมการข้าราชการกรุงเทพมหานคร
ค. พระราชกฤษฎีกา
ง. พระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการกรุงเทพมหานคร
ตอบ ข. คณะกรรมการข้าราชการกรุงเทพมหานคร
มาตรา ๔๕ วันเวลาทำงาน วันหยุดราชการตามประเพณี วันหยุดราชการประจำปีและการลาหยุดราชการของข้าราชการกรุงเทพมหานคร ให้เป็นไปตามที่ ก.ก. กำหนด ในกรณีที่ ก.ก. ยังมิได้กำหนด ให้นำหลักเกณฑ์เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวที่ใช้กับข้าราชการพลเรือน ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา หรือข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษา มาใช้บังคับโดยอนุโลม
49. เครื่องแบบของข้าราชการกรุงเทพมหานครและระเบียบการแต่งกายกำหนดโดย
ก. พระราชกฤษฎีกา
ข. พระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการกรุงเทพมหานคร
ค. รัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทยกำหนดและประกาศในราชกิจจานุเบกษา
ง. ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครกำหนดและประกาศในราชกิจจานุเบกษา
ตอบ ง. ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครกำหนดและประกาศในราชกิจจานุเบกษา
มาตรา ๗๒ เครื่องแบบของบุคลากรกรุงเทพมหานครและระเบียบการแต่งเครื่องแบบให้เป็นไปตามข้อบังคับที่ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครกำหนดและประกาศในราชกิจจานุเบกษา
50. กรรมการ ก.พ.ค. กรุงเทพมหานคร สามารถพ้นจากตำแหน่งได้เมื่อมีอายุครบ
ก. ครบห้าสิบห้าปีบริบูรณ์
ข. ครบหกสิบปีบริบูรณ์
ค. ครบหกสิบห้าปีบริบูรณ์
ง. ครบเจ็ดสิบปีบริบูรณ์
ตอบ ง. ครบเจ็ดสิบปีบริบูรณ์
มาตรา ๓๖ นอกจากการพ้นจากตำแหน่งตามววาระ กรรมการ ก.พ.ค. กรุงเทพมหานคร พ้นจากตำแหน่งเมื่อ
(๑) ตาย
(๒) ลาออก
(๓) มีอายุครบเจ็ดสิบปีบริบูรณ์
(๔) ขาดคุณสมบัติตาม มาตรา ๓๑ หรือมีลักษณะต้องห้ามตาม มาตรา ๓๓
(๕) ต้องคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก แม้จะมีการรอการลงโทษ เว้นแต่เป็นการรอการลงโทษในความผิดอันได้กระทำโดยประมาท ความผิดลหุโทษ หรือความผิดฐานหมิ่นประมาท
(๖) ไม่สามารถปฏิบัติงานได้เต็มเวลาอย่างสม่ำเสมอตามระเบียบของ ก.พ.ค. กรุงเทพมหานคร
51. การจัดระเบียบข้าราชการกรุงเทพมหานครตามพระราชบัญญัตินี้จะต้องคำนึงถึงระบบคุณธรรมในข้อใดต่อไปนี้
ก. การรับบุคคลเพื่อบรรจุเข้าราชการต้องคำนึงถึงความรู้ ความสามารถของบุคคล
ข. การบริหารทรัพยากรบุคคล ต้องคำนึงผลสัมฤทธิ์และประสิทธิภาพขององค์กร
ค. การพิจารณาความดีความชอบ โดยพิจารณาจากผลงาน ศักยภาพ
ง. ถูกทั้ง ข้อ ก. ข. และ ค.
ตอบ ง. ถูกทั้ง ข้อ ก. ข. และ ค.
มาตรา ๔๑ การจัดระเบียบข้าราชการกรุงเทพมหานครตามพระราชบัญญัตินี้ให้คำนึงถึงระบบคุณธรรม ดังต่อไปนี้
(๑) การรับบุคคลเพื่อบรรจุเข้ารับราชการและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งต้องคำนึงถึงความรู้ ความสามารถของบุคคล ความเสมอภาค ความเป็นธรรม และประโยชน์ของทางราชการ
(๒) การบริหารทรัพยากรบุคคล ต้องคำนึงผลสัมฤทธิ์และประสิทธิภาพขององค์กรและลักษณะของงาน โดยไม่เลือกปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรม
(๓) การพิจารณาความดีความชอบ การเลื่อนตำแหน่ง และการให้ประโยชน์อื่นแก่ข้าราชการกรุงเทพมหานครต้องเป็นไปอย่างเป็นธรรมโดยพิจารณาจากผลงาน ศักยภาพ ความประพฤติและพฤติกรรมทางจริยธรรม
(๔) การดำเนินการทางวินัย ต้องเป็นไปด้วยความยุติธรรมและโดยปราศจากอคติ
(๕) การบริหารทรัพยากรบุคคลต้องมีความเป็นกลางทางการเมือง
52. ลูกจ้างกรุงเทพมหานครจะได้รับค่าจ้างจากเงินส่วนใด
ก. งบประมาณหมวดค่าจ้างของกรุงเทพมหานคร
ข. งบประมาณหมวดค่าตอบแทนของกรุงเทพมหานคร
ค. งบประมาณหมวดเงินอุดหนุนของกรุงเทพมหานคร
ง. งบประมาณหมวดเงินสนับสนุนของรัฐบาล
ตอบ ข. งบประมาณหมวดค่าตอบแทนของกรุงเทพมหานคร
มาตรา ๔ ในพระราชบัญญัตินี้
“พนักงานกรุงเทพมหานคร” หมายความว่า บุคคลซึ่งได้รับการจ้างตามสัญญาจ้างโดยได้รับค่าตอบแทนจากเงินงบประมาณหมวดค่าตอบแทนของกรุงเทพมหานคร
53. บุคคลใดต่อไปนี้ มิได้อยู่ในคณะอนุกรรมการสามัญข้าราชการสามัญ
ก. ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร
ข. ปลัดกระทรวงมหาดไทย
ค. หัวหน้าสำนัก ก.ก.
ง. ข้าราชการกรุงเทพมหานครสามัญ
ตอบ ข. ปลัดกระทรวงมหาดไทย
มาตรา ๑๗ อ.ก.ก. สามัญข้าราชการสามัญ ประกอบด้วย
(๑) ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครหรือรองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครซึ่งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครมอบหมาย เป็นประธาน
(๒) ปลัดกรุงเทพมหานครหรือรองปลัดกรุงเทพมหานครซึ่งปลัดกรุงเทพมหานครมอบหมาย เป็นรองประธาน
(๓) หัวหน้าหน่วยงานที่เป็นส่วนราชการของกรุงเทพมหานครตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบบริหารราชการกรุงเทพมหานครซึ่งคัดเลือกกันเอง จำนวนหนึ่งคน
(๔) หัวหน้าสำนักงาน ก.ก.
(๕) ผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งประธานตาม (๑) แต่งตั้งจากผู้ซึ่งมีความรู้ ความเชี่ยวชาญ และมีผลงานเป็นที่ประจักษ์ในด้านการบริหารทรัพยากรบุคคล และมิได้เป็นข้าราชการกรุงเทพมหานคร จำนวนสี่คน ทั้งนี้ ให้ประกอบด้วยชายและหญิง
(๖) ข้าราชการกรุงเทพมหานครสามัญซึ่งคัดเลือกกันเอง จำนวนสี่คน
54. การบรรจุบุคคลเข้ารับราชการเป็นข้าราชการกรุงเทพมหานครสามัญและการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง ผู้ใดมีสั่งบรรจุและแต่งตั้งตำแหน่งหัวหน้าส่วนราชการระดับกอง
ก. นายกรัฐมนตรี
ข. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
ค. ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร
ง. ปลัดกรุงเทพมหานคร
ตอบ ง. ปลัดกรุงเทพมหานคร
การบรรจุและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งหัวหน้าส่วนราชการระดับกอง ตำแหน่งประเภทวิชาการระดับชำนาญการพิเศษ ตำแหน่งประเภททั่วไประดับอาวุโส หรือตำแหน่งอื่นที่ ก.ก. กำหนดในระดับเทียบเท่า ให้ปลัดกรุงเทพมหานครเป็นผู้มีอำนาจสั่งบรรจุและแต่งตั้งโดยคำแนะนำหรือความเห็นชอบของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร
55. การร้องทุกข์ที่เหตุเกิดจากผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ให้ร้องทุกข์ต่อ
ก. นายกรัฐมนตรี
ข. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
ค. สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการกรุงเทพมหานคร
ง. ก.พ.ค. กรุงเทพมหานคร
ตอบ ง. ก.พ.ค. กรุงเทพมหานคร
มาตรา ๖๔ การร้องทุกข์ที่เหตุเกิดจาผู้บังคับบัญชา ให้ร้องทุกข์ต่อผู้บังคับบัญชาชั้นเหนือขึ้นไปตามลำดับ
การร้องทุกข์ที่เหตุเกิดจากผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ปลัดกรุงเทพมหานคร หัวหน้าหน่วยงานระดับสำนัก หรือตำแหน่งอื่นที่ ก.พ.ค. กรุงเทพมหานคร กำหนดให้ร้องทุกข์ต่อ ก.พ.ค. กรุงเทพมหานคร
56. กรุงเทพมหานครมีพนักงานกรุงเทพมหานครเพื่อปฏิบัติงานในลักษณะใด
ก. ใช้พละกำลังหรือกำลังกาย
ข. ใช้ความสามารถของฝีมือ
ค. ใช้ความรู้หรือความเชี่ยวชาญ
ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ค. ใช้ความรู้หรือความเชี่ยวชาญ
มาตรา ๗๐ กรุงเทพมหานครอาจมีพนักงานกรุงเทพมหานครเพื่อปฏิบัติงานในลักษณะที่ต้องใช้ความรู้หรือความเชี่ยวชาญ หรือเพื่อปฏิบัติงานในเรื่องที่มีความจำเป็นได้
การบริหารทรัพยากรบุคคลของพนักงานกรุงเทพมหานคร ให้เป็นไปตามมาตรฐานที่ ก.ก. กำหนด
57. ข้อใดต่อไปนี้มิใช่ความหมายของคำว่า “หน่วยงานการศึกษา”
ก. สถานศึกษา
ข. แหล่งการเรียนรู้ตามประกาศกรุงเทพมหานคร
ค. สถาบันการศึกษาที่จัดการศึกษาระดับปริญญาของกรุงเทพมหานคร
ง. ส่วนราชการอื่นตามประกาศกรุงเทพมหานคร
ตอบ ค. สถาบันการศึกษาที่จัดการศึกษาระดับปริญญาของกรุงเทพมหานคร
มาตรา ๔ ในพระราชบัญญัตินี้
“หน่วยงานการศึกษา” หมายความว่า
(๑) สถานศึกษา
(๒) แหล่งการเรียนรู้ตามประกาศกรุงเทพมหานคร
(๓) ส่วนราชการอื่นตามประกาศกรุงเทพมหานคร
58. ประธาน ก.พ.ค. กรุงเทพมหานคร คือ
ก. ประธานศาลปกครองสูงสุด
ข. ประธานศาลปกครองชั้นต้น
ค. ประธานศาลยุติธรรม
ง. ประธานศาลฎีกา
ตอบ ก. ประธานศาลปกครองสูงสุด
มาตรา ๓๒ ให้มีคณะกรรมการคัดเลือกกรรมการ ก.พ.ค. กรุงเทพมหานคร ประกอบด้วย ประธานศาลปกครองสูงสุดเป็นประธาน รองประธานศาลฎีกาที่ได้รับมอบหมายจากประธานศาลฎีกาหนึ่งคน กรรมการ ก.ก. ผู้ทรงคุณวุฒิหนึ่งคนซึ่งได้รับเลือกโดย ก.ก. และให้หัวหน้าสำนักงาน ก.ก. เป็นกรรมการและเลขานุการ
59. ค่าจ้าง ค่าตอบแทน สิทธิหรือประโยชน์ตอบแทนอื่นใดของลูกจ้างกรุงเทพมหานครให้ตราเป็น
ก. ข้อบังคับกรุงเทพมหานคร
ข. ข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร
ค. เทศบัญญัติกรุงเทพมหานคร
ง. กรุงเทพกิจจานุเบกษา
ตอบ ข. ข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร
มาตรา ๖๘ การบริหารทรัพยากรบุคคลของลูกจ้างกรุงเทพมหานคร ให้เป็นไปตามมาตรฐานที่ ก.ก. กำหนด
ค่าจ้าง ค่าตอบแทน สิทธิหรือประโยชน์ตอบแทนอื่นใด และบำเหน็จของลูกจ้างกรุงเทพมหานครให้ตราเป็นข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร
60. ข้าราชการกรุงเทพมหานครในสถาบันอุดมศึกษาคือ
ก. ตำแหน่งศาสตราจารย์
ข. ตำแหน่งรองศาสตราจารย์
ค. ตำแหน่งผู้ช่วยศาสตราจารย์
ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง. ถูกทุกข้อ
แนวข้อสอบ ระเบียบกรุงเทพมหานครว่าด้วยวิธีปฏิบัติงานสารบรรณ พ.ศ. 2546
61. ระเบียบฉบับนี้บังคับใช้เมื่อใด
ก. ทันทีที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษา
ข. หลังจากประกาศในราชกิจจานุเบกษาหนึ่งวัน
ค. ๑ มกราคม พ.ศ. ๒๕๔๗
ง. ๑ เมษายน พ.ศ. ๒๕๔๗
ตอบ ค. ๑ มกราคม พ.ศ. ๒๕๔๗
ข้อ ๒ ระเบียบนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ ๑ มกราคม ๒๕๔๗ เป็นต้นไป
62. วิธีปฏิบัติงานสารบรรณของกรุงเทพมหานคร ให้ถือปฏิบัติตามระเบียบในข้อใด
ก. ระเบียบผู้ว่ากรุงเทพมหานครว่าด้วยการสารบรรณ
ข. ระเบียบสภากรุงเทพมหานครว่าด้วยการสารบรรณ
ค. ระเบียบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการสารบรรณ
ง. ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการสารบรรณ
ตอบ ง. ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการสารบรรณ
ข้อ ๕ วิธีปฏิบัติงานสารบรรณของกรุงเทพมหานคร ให้ถือปฏิบัติตามระเบียบนี้และระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยงานสารบรรณ
คำอธิบายซึ่งกำหนดไว้ท้ายระเบียบ ให้ถือว่าเป็นส่วนประกอบที่ใช้ในงานสารบรรณ และให้ใช้เป็นแนวทางในการปฏิบัติ
63. ผู้ที่รักษาการตามระเบียบนี้คือ
ก. ปลัดกรุงเทพมหานคร
ข. ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร
ค. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
ง. นายกรัฐมนตรี
ตอบ ก. ปลัดกรุงเทพมหานคร
ข้อ ๖ ให้ปลัดกรุงเทพมหานครรักษาการตามระเบียบนี้ และให้มีอำนาจตีความและวินิจฉัยปัญหาเกี่ยวกับการปฏิบัติตามระเบียบนี้ รวมทั้งการแก้ไขเพิ่มเติมภาคผนวกและจัดทำคำอธิบายกับให้มีหน้าที่ดำเนินการฝึกอบรมเกี่ยวกับงานสารบรรณ
64. ผู้ที่มีอำนาจตีความและวินิจฉัยปัญหาเกี่ยวกับการปฏิบัติตามระเบียบนี้คือ
ก. ปลัดกรุงเทพมหานคร
ข. ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร
ค. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
ง. นายกรัฐมนตรี
ตอบ ก. ปลัดกรุงเทพมหานคร
ดูคำอธิบายข้อข้างต้น
65. คณะกรรมการว่าด้วยงานสารบรรณกรุงเทพมหานคร จะสามารถดำรงตำแหน่งได้เมื่อใด
ก. เมื่อผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครแต่งตั้ง
ข. เมื่อประธานสภากรุงเทพมหานครแต่งตั้ง
ค. เมื่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยแต่งตั้ง
ง. ดำรงตำแหน่งทันทีที่ได้รับเลือก
ตอบ ก. เมื่อผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครแต่งตั้ง
ข้อ ๗ ให้มีคณะกรรมการว่าด้วยงานสารบรรณกรุงเทพมหานคร ซึ่งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครแต่งตั้งและให้มีอำนาจหน้าที่ดังต่อไปนี้
(๑) เสนอแนะการแก้ไขปรับปรุงและพัฒนาระเบียบนี้ต่อผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร
(๒) เสนอความเห็นในการตีความ การวินิจฉัยปัญหา การแก้ไขเพิ่มเติมภาคผนวกและคำอธิบายตามที่กำหนดไว้ใน ข้อ ๖
(๓) เสนอแนะการจัดวางระบบการเก็บรักษาหนังสือสำคัญด้วยระบบต่างๆ ต่อปลัดกรุงเทพมหานคร เช่น ระบบไมโครฟิล์ม เป็นต้น
(๔) ให้ความเห็นชอบในการเก็บรักษาหนังสือราชการที่เป็นเอกสารสำคัญไว้ในระบบตาม (๓)
(๕) พิจารณาดำเนินการตามที่ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร หรือปลัดกรุงเทพมหานครมอบหมาย
66. เลขที่หนังสือออก จะต้องประกอบด้วยข้อใดบ้าง
ก. ตัวพยัญชนะและวันที่ที่ออกหนังสือ
ข. เลขประจำของส่วนราชการเจ้าของเรื่องและวันที่ที่ออกหนังสือ
ค. ตัวพยัญชนะและเลขประจำของส่วนราชการเจ้าของเรื่อง
ง. เลขประจำของส่วนราชการเจ้าของเรื่องเท่านั้น
ตอบ ค. ตัวพยัญชนะและเลขประจำของส่วนราชการเจ้าของเรื่อง
ข้อ ๘ เลขที่หนังสืออก ประกอบด้วยรหัสตัวพยัญชนะแล้วต่อด้วยเลขประจำของส่วนราชการเจ้าของเรื่อง
รหัสตัวพยัญชนะที่ใช้สำหรับเลขที่หนังสือออกของทุกหน่วยงานและส่วนราชการให้ใช้รหัส กท
67. รหัสตัวพยัญชนะที่ใช้สำหรับเลขที่หนังสือออกของทุกหน่วยงานและส่วนราชการให้ใช้ตัวพยัญชนะใด
ก. กท
ข. กท.
ค. กทม
ง. กทม.
ตอบ ก. กท
ดูคำอธิบายข้อข้างต้น
68. เลขประจำของส่วนราชการเจ้าของเรื่องประกอบด้วยตัวเลขสี่ตัว ตัวเลขสองตัวแรกหมายถึง
ก. วันที่ออกหนังสือ
ข. ส่วนราชการภายใน
ค. เลขประจำตัวผู้ออกหนังสือ
ง. หน่วยงาน
ตอบ ง. หน่วยงาน
ข้อ ๙ เลขประจำของส่วนราชการเจ้าของเรื่องประกอบด้วยตัวเลขสี่ตัว ตัวเลขสองตัวแรกสำหรับหน่วยงาน โดยเริ่มจากตัวเลข ๐๑ เรียงไปตามลำดับหน่วยงานตามประกาศกรุงเทพมหานครว่าด้วยการจัดระเบียบราชการของกรุงเทพมหานคร และตัวเลขสองตัวหลังหมายถึงส่วนราชการภายในหน่วยงานระดับไม่ต่ำกว่ากองหรือฝ่าย แล้วแต่กรณี ตามประกาศกรุงเทพมหานครว่าด้วยการแบ่งส่วนราชการภายในหน่วยงาน และการกำหนดอำนาจหน้าที่ของส่วนราชการกรุงเทพมหานคร
69. ส.กทม. ย่อมาจาก
ก. สภากรุงเทพมหานคร
ข. สมาชิกกรุงเทพมหานคร
ค. สำนักงานกรุงเทพมหานคร
ง. ส่วนราชการกรุงเทพมหานคร
ตอบ ก. สภากรุงเทพมหานคร
ข้อ ๑๐ อักษรย่อชื่อกรุงเทพมหานครคือ กทม.
อักษรย่อชื่อสภากรุงเทพมหานครคือ ส.กทม.
ให้มีอักษรย่อชื่อหน่วยงาน ส่วนราชการ และการพาณิชย์ของกรุงเทพมหานคร รวมทั้งอักษรย่อชื่อตำแหน่งในการบริหารงานระดับไม่ต่ำกว่ากอง
70. ข้อใดมิใช่หนังสือราชการที่กำหนดให้ทำเป็นหนังสือภายใน
ก. หนังสือที่ปลัดกรุงเทพมหานครมีไปถึงหน่วยงานในสังกัด
ข. หนังสือที่ผู้ว่าราชกรุงเทพมหานครมีไปถึงประธานสภากรุงเทพมหานคร
ค. หนังสือที่ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครมีไปถึงหน่วยงานในสังกัด
ง. หนังสือที่กรุงเทพมหานครมีไปถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
ตอบ ข. หนังสือที่ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครมีไปถึงประธานสภากรุงเทพมหานคร
ข้อ ๑๒ หนังสือราชการที่กำหนดให้ทำเป็นหนังสือภายใน คือ หนังสือติดต่อภายในระหว่างหน่วยงานหรือส่วนราชการในสังกัดกรุงเทพมหานคร รวมทั้งหนังสือที่กรุงเทพมหานครมีไปถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และหนังสือที่ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครหรือปลัดกรุงเทพมหานครมีไปถึงหน่วยงานในสังกัด
71. หน่วยสารบรรณกลางของกรุงเทพมหานครให้ปลัดกรุงเทพมหานครเป็นผู้กำหนดโดยจะต้องประกาศแบบใด
ก. ประกาศราชกิจจานุเบกษา
ข. ประกาศพระราชกฤษฎีกา
ค. ประกาศกรุงเทพมหานคร
ง. ประกาศข้อบัญญัติ
ตอบ ค. ประกาศกรุงเทพมหานคร
ข้อ ๑๔ หน่วยสารบรรณกลางของกรุงเทพมหานครและหน่วยสารบรรณกลางของหน่วยงานให้ปลัดกรุงเทพมหานครเป็นผู้กำหนดโดยทำเป็นประกาศกรุงเทพมหานคร
72. หนังสือของกรุงเทพมหานครที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นผู้ลงนามที่หนังสือออก ให้ใช้รหัสใด
ก. มท ๐๐๐๑/....
ข. มท ๐๐๑๐/....
ค. มท ๐๑๐๐/....
ง. มท ๑๐๐๐/....
ตอบ ค. มท ๐๑๐๐/....
หนังสือของกรุงเทพมหานครที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นผู้ลงนามที่หนังสือออก ให้ใช้รหัส มท ๐๑๐๐/.... ส่วนราชการเจ้าของหนัสือให้ใช้ว่า กระทรวงมหาดไทย และส่วนราชการเจ้าของเรื่องให้ใช้ว่า กรุงเทพมหานคร แล้วต่อด้วยหนังสือในสังกัดกรุงเทพมหานคร สำหรับเลขทะเบียนหนังสือส่งให้ออกเลขที่กองกลาง สำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย
73. กรณีหนังสือภายนอกที่เป็นเรื่องเร่งด่วนและเป็นเรื่องที่โดยปกติจะต้องเสนอผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร แต่ได้รับเรื่องล่าช้า หากรอเสนอสั่งการอาจเสียหายแก่ราชการ หัวหน้าหน่วยสารบรรณกลางสามารถส่งเรื่องดังกล่าวให้ใครพิจารณาดำเนินการได้
ก. เจ้าหน้าที่สารบรรณ
ข. หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ค. ส่วนราชการเจ้าของหนังสือ
ง. ส่วนราชการเจ้าของเรื่อง
ตอบ ข. หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ข้อ ๑๖ กรณีหนังสือภายนอกที่เป็นเรื่องเร่งด่วนและเป็นเรื่องที่โดยปกติจะต้องเสนอผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครหรือปลัดกรุงเทพมหานครหรือหัวหน้าหน่วยงาน แล้วแต่กรณี เพื่อพิจารณาสั่งการก่อน แต่ได้รับเรื่องล่าช้า หากรอเสนอสั่งการอาจเสียหายแก่ราชการ ให้หัวหน้าหน่วยสารบรรณกลางส่งเรื่องดังกล่าวให้หน่วยงานหรือส่วนราชการที่เกี่ยวข้องพิจารณาดำเนินการได้ และให้สำเนาเรื่องเสนอผู้มีอำนาจสั่งการทราบโดยเร็ว
74. ข้อใดกล่าวถูกต้องเกี่ยวกับการเสนอหนังสือ
ก. การเสนอหนังสือต้องเสนอผู้บังคับบัญชาที่มีอำนาจวินิจฉัยสั่งการชั้นสุดท้าย
ข. การเสนอหนังสือต้องเสนอผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้นจากบนลงล่าง
ค. การเสนอหนังสือต้องเสนอผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้นจากล่างขึ้นบน
ง. ไม่มีข้อใดถูก
ตอบ ค. การเสนอหนังสือต้องเสนอผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้นจากล่างขึ้นลน
ข้อ ๑๗ การเสนอหนังสือต้องเสนอผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้น จนถึงผู้บังคับบัญชาที่มีอำนาจวินิจฉัยสั่งการชั้นสุดท้าย เว้นแต่ผู้บังคับบัญชาเหนือขึ้นไปได้สั่งการไว้เป็นการเฉพาะเรื่อง และผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้น ตลอดจนเจ้าหน้าที่พิมพ์ ตรวจทาน จะต้องลงชื่อและวันที่กำกับไว้ที่มุมล่างด้านขวาของสำเนาคู่ฉบับเพื่อแสดงว่าได้ตรวจความถูกต้องแล้ว
75. หนังสือติดต่อระหว่างหน่วยงานของกรุงเทพมหานคร ให้ทำในนามของใคร
ก. หัวหน้าหน่วยงาน
ข. หัวหน้าส่วนราชการ
ค. ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร
ง. กรุงเทพมหานคร
ตอบ ก. หัวหน้าหน่วยงาน
ข้อ ๒๒ หนังสือติดต่อระหว่างหน่วยงานของกรุงเทพมหานคร ให้ทำในนามของหัวหน้าหน่วยงาน ยกเว้นส่วนราชการระดับไม่ต่ำกว่ากองในสังกัดสำนักปลัดกรุงเทพมหานคร ให้ติดต่อระหว่างหัวหน้าหน่วยงานกับหัวหน้าส่วนราชการได้
76. หนังสือติดต่อระหว่างส่วนราชการภายในหน่วยงานเดียวกัน ให้ทำในนามของใคร
ก. หัวหน้าหน่วยงาน
ข. หัวหน้าส่วนราชการ
ค. ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร
ง. กรุงเทพมหานคร
ตอบ ข. หัวหน้าส่วนราชการ
ข้อ ๒๓ หนังสือติดต่อระหว่างส่วนราชการภายในหน่วยงานเดียวกัน ให้ทำในนามของหัวหน้าส่วนราชการ
77. หนังสือเวียน ใครจะต้องเป็นผู้เวียน
ก. เลขานุการปลัดกรุงเทพมหานคร
ข. เลขานุการส่วนหน่วยงาน
ค. เลขานุการส่วนราชการ
ง. ส่วนราชการเจ้าของเรื่อง
ตอบ ง. ส่วนราชการเจ้าของเรื่อง
ข้อ ๒๗ หนังสือเวียน ให้หน่วยงานหรือส่วนราชการเจ้าของเรื่องเป็นผู้เวียน
78. ระเบียบฉบับนี้ได้อาศัยอำนาจในมาตราใด แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการกรุงเทพมหานคร พ.ศ. ๒๕๒๘
ก. มาตรา ๓๙
ข. มาตรา ๔๙
ค. มาตรา ๕๙
ง. มาตรา ๖๙
ตอบ ข. มาตรา ๔๙
อาศัยอำนาจตามความใน มาตรา ๔๙ แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการกรุงเทพมหานคร พ.ศ. ๒๕๒๘ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครจึงกำหนดระเบียบขึ้นไว้
79. ข้อใดมิใช่เหตุผลที่ต้องมีการร่างหนังสือก่อนที่จะพิมพ์เป็นต้นฉบับจริง
ก. เพื่อจัดลำดับความสำคัญและประเด็นที่ต้องการ
ข. เก็บไว้เป็นหลักฐานประกอบเรื่อง
ค. สะดวกแก่การประยุกต์นำไปทำหนังสือเรื่องอื่น
ง. มีการตรวจสอบแก้ไขให้ได้เนื้อหาตามที่ต้องการ
ตอบ ค. สะดวกแก่การประยุกต์นำไปทำหนังสือเรื่องอื่น
เหตุผลที่จำเป็นต้องมีการร่างหนังสือก่อนที่จะพิมพ์เป็นต้นฉบับตัวจริง
๑. เพื่อจัดลำดับความสำคัญและประเด็นที่ต้องการกล่าวถึงในเรื่องนั้นๆ ให้ได้เนื้อหา ใจความ เป็นขั้น เป็นตอน
๒. มีการตรวจสอบแก้ไขให้ได้เนื้อหาตามที่ต้องการ และมีความเหมาะสมถูกต้องตามระเบียบแบบแผนของทางราชการ
๓. เก็บไว้เป็นหลักฐานประกอบเรื่อง
๔. สะดวกแก่ผู้พิมพ์
80. หนังสือที่มีไปถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย จะต้องทำในนาม
ก. ปลัดกรุงเทพมหานคร
ข. ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร
ค. ประธานสภากรุงเทพมหานคร
ง. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
ตอบ ข. ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร
หนังสือไปถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย หรือประธานสภากรุงเทพมหานครให้ทำในนามผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร หนังสือไปถึงเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเพื่อนำสเนอคณะรัฐมนตรีพิจารณา ต้องทำในนามรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
81. หนังสือภายนอก ใช้กระดาษอะไร
ก. กระดาษ A 4
ข. กระดาษตราครุฑ
ค. กระดาษธรรมดา
ง. กระดาษบันทึกข้อความ
ตอบ ข. กระดาษตราครุฑ
82. หนังสือภายใน ใช้กระดาษอะไร
ก. กระดาษ A 4
ข. กระดาษตราครุฑ
ค. กระดาษธรรมดา
ง. กระดาษบันทึกข้อความ
ตอบ ง. กระดาษบันทึกข้อความ
83. “ที่ กท ๐๓๐๑/๑๕๘๖” เลข ๑๕๘๖ เป็นเลขของสิ่งใด
ก. เลขทะเบียนหนังสือ
ข. เลขทะเบียนหนังสือออก
ค. เลขที่หนังสือออก
ง. ไม่มีข้อใดถูก
ตอบ ค. เลขที่หนังสือออก
84. หนังสือสั่งการชนิดคำสั่งมีกี่ระดับ อะไรบ้าง
ก. ๒ ระดับ ได้แก่ คำสั่งหน่วยงาน คำสั่งส่วนราชการ
ข. ๒ ระดับ ได้แก่ คำสั่งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร คำสั่งปลัดกรุงเทพมหานคร
ค. ๓ ระดับ ได้แก่ คำสั่งกรุงเทพมหานคร คำสั่งหน่วยงาน คำสั่งส่วนราชการ
ง. ๓ ระดับ ได้แก่ คำสั่งสำนักปลัดกรุงเทพมหานคร คำสั่งสำนักผู้ว่ากรุงเทพมหานคร คำสั่งสำนักกรุงเทพมหานคร
ตอบ ค. ๓ ระดับ ได้แก่ คำสั่งกรุงเทพมหานคร คำสั่งหน่วยงาน คำสั่งส่วนราชการ
ข้อ ๒๘ หนังสือสั่งการชนิดคำสั่งมีได้ ๓ ระดับ คือ คำสั่งกรุงเทพมหานคร คำสั่งหน่วยงาน และคำสั่งส่วนราชการ
85. ผู้มีอำนาจออกคำสั่งกรุงเทพมหานคร คือ
ก. รัฐมนตรีว่ากระทรวงมหาดไทย
ข. หัวหน้าส่วนราชการ
ค. หัวหน้าหน่วยงาน
ง. ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร
ตอบ ง. ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร
ข้อ ๒๙ ผู้มีอำนาจออกคำสั่งกรุงเทพมหานคร ได้แก่ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครหรือปลัดกรุงเทพมหานคร แล้วแต่กรณี ผู้มีอำนาจออกคำสั่งหน่วยงานและคำสั่งส่วนราชการ ได้แก่ หัวหน้าหน่วยงานและหัวหน้าส่วนราชการ
คำสั่งของปลัดกรุงเทพมหานครในฐานะผู้ใช้อำนาจของอธิบดี ให้ออกเป็นคำสั่งสำนักปลัดกรุงเทพมหานคร
86. การออกหนังสือที่กรุงเทพมหานครมีไปถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย มีลักษณะการออกหนังสือตามข้อใด
ก. กรุงเทพมหานคร ต่อด้วยวงเล็บชื่อส่วนราชการ เลขหมายโทรศัพท์ และเลขหมายโทรสารของส่วนราชการเจ้าของเรื่องนั้น
ข. กรุงเทพมหานคร ต่อด้วยวงเล็บชื่อส่วน ฝ่าย กลุ่มงานหรืองาน เลขหมายโทรศัพท์ และเลขหมายโทรศารของส่วนราชการเจ้าของเรื่องนั้น
ค. กรุงเทพมหานคร ต่อด้วยวงเล็บชื่อหน่วยงาน เลขหมายโทรศัพท์ และเลขหมายโทรสารของส่วนราชการเจ้าของเรื่องนั้น
ง. กรุงเทพมหานคร ต่อด้วยวงเล็บชื่อเจ้าของเรื่อง เลขหมายโทรศัพท์ และเลขหมายโทรสารของส่วนราชการเจ้างของเรื่องนั้น
ตอบ ค. กรุงเทพมหานคร ต่อด้วยวงเล็บชื่อหน่วยงาน เลขหมายโทรศัพท์ และเลขหมายโทรสารของส่วนราชการเจ้าของเรื่องนั้น
หนังสือที่ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครหรือปลัดกรุงเทพมหานครมีไปถึงหน่วยงานหรือหนังสือที่กรุงเทพมหานครมีไปถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ชื่อส่วนราชการเจ้าของหนังสือให้ใช้ว่า กรุงเทพมหานคร ต่อด้วยวงเล็บชื่อหน่วยงาน เลขหมายโทรศัพท์ และเลขหมายโทรสารของส่วนราชการเจ้าของเรื่องนั้น
87. การตีความ การวินิจฉัยปัญหา และการแก้ไขเพิ่มเติมภาคผนวก ปลัดกรุงเทพมหานครจะต้องขอความเห็นจากหน่วยงานใดเพื่อประกอบการพิจารณา
ก. คณะกรรมการกำหนดระเบียบข้าราชการ
ข. คณะกรรมการว่าด้วยงานสารบรรณกรุงเทพมหานคร
ค. ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร
ง. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
ตอบ ข. คณะกรรมการว่าด้วยงานสารบรรณกรุงเทพมหานคร
การตีความ การวินิจฉัยปัญหา และการแก้ไขเพิ่มเติมภาคผนวกและคำอธิบายตามวรรคหนึ่ง ปลัดกรุงเทพมหานครจะขอความเห็นจากคณะกรรมการว่าด้วยงานสารบรรณกรุงเทพมหานคร เพื่อประกอบการพิจารณา
88. ข้อใดคือความหมายของหนังสือราชการที่กำหนดให้ทำเป็นหนังสือภายนอก
ก. หนังสือที่ปลัดกรุงเทพมหานครมีบบบบบบบบบบบบไปถึงหน่วยงานในสังกัด
ข. หนังสือที่ผู้ว่าราชกรุงเทพมหานครมีไปถึงประธานสภากรุงเทพมหานคร
ค. หนังสือที่ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครมีไปถึงหน่วยงานในสังกัด
ง. หนังสือที่กรุงเทพมหานครมีไปถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
ตอบ ข. หนังสือที่ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครมีไปถึงประธานสภากรุงเทพมหานคร
ข้อ ๑๓ หนังสือราชการที่กำหนดให้ทำเป็นหนังสือภายนอก คือ หนังสือติดต่อระหว่างกรุงเทพมหานครกับหน่วยราชการอื่น หรือหน่วยงานอื่นที่มิใช่หน่วยราชการหรือบุคคลภายนอก และหนังสือที่ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครมีไปถึงประธานสภากรุงเทพมหานคร
แนวข้อสอบหลักธรรมมาภิบาล หลักเศรษฐกิจพอเพียง หลักสิทธิมนุษยชน การปกครองท้องถิ่น
89. “หลักธรรมาภิบาล” มีชื่อเรียกว่าอย่างไร
ก. “การบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี ค. บรรษัทภิบาล
ข. หลักธรรมรัฐ ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง. ถูกทุกข้อ
90. องค์ประกอบของหลักธรรมมาภิบาลมีกี่ข้อ
ก. 4 ข้อ ค. 6 ข้อ
ข. 5 ข้อ ง. 7 ข้อ
ตอบ ค. 6 ประการ
91. การตรากฎหมาย กฎ ระเบียบข้อบังคับและกติกาต่าง ๆ ให้ทันสมัยและเป็นธรรม คือหลักธรรมมาภิบาลใด
ก. หลักคุณธรรม ค. หลักความโปร่งใส
ข. หลักนิติธรรม ง. หลักความรับผิดชอบ
ตอบ ข. หลักนิติธรรม
92. การยึดถือและเชื่อมั่นในความถูกต้องดีงาม คือหลักธรรมมาภิบาลใด
ก. หลักความโปร่งใส ค. หลักคุณธรรม
ข. หลักความคุ้มค่า ง. หลักความมีส่วนร่วม
ตอบ ค. หลักคุณธรรม
93. การทำให้สังคมไทยเป็นสังคมที่เปิดเผยข้อมูลข่าวสารอย่างตรงไปตรงมา และสามารถตรวจสอบความถูกต้องได้ คือหลักธรรมมาภิบาลใด
ก. หลักความโปร่งใส ค. หลักความคุ้มค่า
ข. หลักความคุ้มค่า ง. หลักความมีส่วนร่วม
ตอบ ก. หลักความโปร่งใส
94. การทำให้สังคมไทยเป็นสังคมที่ประชาชนมีส่วนร่วมรับรู้ และร่วมเสนอความเห็นในการตัดสินใจสาคัญ ๆ ของสังคม คือหลักธรรมมาภิบาลใด
ก. หลักความโปร่งใส ค. หลักความคุ้มค่า
ข. หลักความคุ้มค่า ง. หลักความมีส่วนร่วม
ตอบ ง. หลักความมีส่วนร่วม
95. ข้อใดกล่าวผิด
ก. เศรษฐกิจพอพียง เป็นปรัชญาชี้ถึงการพัฒนาและบริหารประเทศให้ดำเนินไปในทางสายกลางและความไม่ประมาท
ข. เศรษฐกิจพอเพียง เป็นปรัชญาชี้ถึงแนวการดำรงอยู่และปฏิบัติตนของประชาชนในทุกระดับตั้งแต่ระดับครอบครัว ระดับชุมชนจนถึงระดับรัฐ
ค. เศรษฐกิจพอเพียง เป็นปรัชญาที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระราชดำรัสชี้แนะแนวทางการดำเนินชีวิตแก่พสกนิกรชาวไทยมาโดยตลอดนานกว่า 25 ปี
ง. ไม่มีข้อใดกล่าวผิด
ตอบ ง. ไม่มีข้อใดกล่าวผิด
96. ข้อใด ไม่เป็น ความหมายของคำว่า ความพอเพียง
ก. ความมีระบบภูมิคุ้มกันในตัวที่ดี ค. ความมีเหตุผล
ข. ความพออยู่ พอกิน ง. ความพอประมาณ
ตอบ ข. ความพออยู่ พอกิน
97. ความพอดีที่ไม่น้อยเกินไปและไม่มากเกินไปโดยไม่เบียดเบียนตนเองและผู้อื่น เป็นความหมายของคำว่าอะไร
ก. ความมีระบบภูมิคุ้มกันในตัวที่ดี ค. ความมีเหตุผล
ข. ความพออยู่ พอกิน ง. ความพอประมาณ
ตอบ ง. ความพอประมาณ
98. การตัดสินใจเกี่ยวกับระดับของความพอเพียงนั้นจะต้องเป็นไปอย่างมีเหตุผลโดยพิจารณาจากเหตุปัจจัยที่เกี่ยวข้องตลอดจนคำนึงถึงผลที่คาดว่าจะเกิดขึ้นจากการกระทำนั้นๆอย่างรอบคอบ เป็นความหมายของคำว่าอะไร
ก. ความมีระบบภูมิคุ้มกันในตัวที่ดี ค. ความมีเหตุผล
ข. ความพออยู่ พอกิน ง. ความพอประมาณ
ตอบ ค. ความมีเหตุผล
99. การเตรียมตัวให้พร้อมรับผลกระทบการเปลี่ยนแปลงด้านต่างๆที่จะเกิดขึ้นโดยคำนึงถึงความเป็นไปได้ของสถานการณ์ต่างๆที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในอนาคตทั้งใกล้และไกล เป็นความหมายของคำว่าอะไร
ก. ความมีระบบภูมิคุ้มกันในตัวที่ดี ค. ความมีเหตุผล
ข. ความพออยู่ พอกิน ง. ความพอประมาณ
ตอบ ก. ความมีระบบภูมิคุ้มกันในตัวที่ดี
100. เงื่อนไขการตัดสินใจและการดำเนินกิจกรรมต่างๆให้อยู่ในระดับพอเพียงนั้นต้องมีพื้นฐานตามข้อใด
ก. ความรู้ และคุณธรรม ค. ความรู้ และความมีภูมิคุ้มกัน
ข. ความรู้ และเหตุผล ง. ความรู้ และความประมาณ
ตอบ ก. ความรู้ และคุณธรรม
101. หลักเศรษฐกิจพอเพียงมีจำนวนกี่แบบ
ก. 2 แบบ คือ แบบขั้นต้น กับ แบบขั้นสูง
ข. 2 แบบ คือ แบบขั้นต้น กับ แบบก้าวหน้า
ค. 2 แบบ คือ แบบพื้นฐาน กับ แบบขั้นสูง
ง. 2 แบบ คือ แบบพื้นฐาน กับ แบบก้าวหน้า
ตอบ ง. 2 แบบ คือ แบบพื้นฐาน กับ แบบก้าวหน้า
102. ทฤษฎีใหม่มีกี่ขั้นตอน
ก. 5 ขั้นตอน ค. 3 ขั้นตอน
ข. 4 ขั้นตอน ง. 2 ขั้นตอน
ตอบ ค. 3 ขั้นตอน
103. หลักการทรงงานลักษณะทางสายกลาง คือข้อใด
ก. การพัฒนาต้องเอาคนเป็นตัวตั้ง
ข. ยึดหลัก ภูมิสังคม
ค. การพัฒนาต้องเริ่มจาก การพึ่งตนเองให้ได้ก่อน
ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง. ถูกทุกข้อ
104. ความพอเพียงในระดับประเทศ เป็นเศรษฐกิจพอเพียงแบบใด
ก. ขั้นต้น ค. ขั้นสูง
ข. แบบก้าวหน้า ง. แบบพื้นฐาน
ตอบ ข. แบบก้าวหน้า
105. ความพอเพียงในระดับชุมชน เป็นเศรษฐกิจพอเพียงแบบใด
ก. ขั้นต้น ค. ขั้นสูง
ข. แบบก้าวหน้า ง. แบบพื้นฐาน
ตอบ ข.แบบก้าวหน้า
106. พระราชดำริการแก้ปัญหาดินขาดคุณภาพ คือข้อใด
ก. แกล้งดิน ค. แก้มลิง
ข. ฝายแม้ว ง. การใช้หญ้าแฝก
ตอบ ก. แกล้งดิน
107. พระราชดำริที่ป้องกันการพังทลายของหน้าดิน คือข้อใด
ก. แกล้งดิน ค. แก้มลิง
ข. ฝายแม้ว ง. การใช้หญ้าแฝก
ตอบ ง. การใช้หญ้าแฝก
108. ข้อใดเป็นประโยชน์อย่างที่ 4 จากพระราชดำริการปลูกป่า 3 อย่างแต่ได้ประโยชน์ 4 อย่าง
ก. ใช้ผล ค. ใช้ไม้เป็นฟืน
ข. ใช้ไม้ ง. ช่วยอนุรักษ์ดินและต้นน้ำลำธาร
ตอบ ง. ช่วยอนุรักษ์ดินและต้นน้ำลำธาร