
ป้ายกลางแจ้งหรือป้ายหน้าร้าน ไม่ว่าจะเป็น ป้ายชื่อร้าน ป้ายบริษัท หรือป้ายโฆษณา
สิ่งหนึ่งที่ทำให้ป้าย “โดดเด่นในตอนกลางคืน” คือ ระบบไฟส่องป้าย
แต่การเลือกไฟผิดประเภทอาจทำให้
ป้ายสว่างไม่ทั่ว
สีซีดหรือผิดเพี้ยน
เปลืองค่าไฟโดยไม่จำเป็น
ดังนั้น การเลือกไฟที่ ทั้งเด่น ทั้งประหยัด คือหัวใจสำคัญของการออกแบบป้ายให้มีประสิทธิภาพสูงสุด
เป็นไฟส่องกว้าง ให้แสงสว่างทั่วพื้นที่
เหมาะกับป้ายกลางแจ้งขนาดใหญ่ เช่น บิลบอร์ด หรือป้ายโครงเหล็ก
ปัจจุบันนิยมใช้แบบ LED Flood Light เพราะประหยัดไฟกว่าแบบหลอดฮาโลเจนถึง 80%
อายุการใช้งานยาวนานกว่า 30,000 ชั่วโมง
ให้แสงเฉพาะจุด เหมาะกับป้ายเล็ก หรือป้ายหน้าร้าน
สามารถปรับมุมแสงได้ ทำให้เน้นโลโก้หรือข้อความให้เด่นขึ้น
ควรใช้ร่วมกับไฟแบบกระจายเพื่อให้สว่างทั่วถึง
ให้แสงนุ่ม สวยงาม เหมาะกับป้ายตัวอักษร หรือป้ายตกแต่ง
ใช้ไฟแรงดันต่ำ ปลอดภัยและประหยัด
สามารถเลือกสีได้หลากหลาย เช่น ขาวนวล เหลืองทอง แดง น้ำเงิน
ให้ความรู้สึกอบอุ่น เหมาะกับร้านอาหาร ร้านกาแฟ หรือป้ายโฆษณาแนวพรีเมียม
ถ้าเป็นร้านอุตสาหกรรมหรือป้ายข้างถนน ใช้ Cool White (แสงขาว) จะเห็นชัดและเด่นกว่า
ประหยัดไฟได้มากกว่า 70%
ไม่ร้อน ไม่ดึงพลังงานเกิน
อายุการใช้งานยาวนาน
ควรเลือกไฟที่มี ค่าประสิทธิภาพแสง (lm/W) สูงกว่า 100
มุมยิงไฟควรอยู่ 30–45 องศา จากพื้นป้าย
สำหรับป้ายขนาดใหญ่ ใช้ไฟเรียงเป็นแนวด้านล่างยิงขึ้น หรือด้านบนยิงลง
อย่าให้ไฟส่องเข้าตาผู้สัญจร เพราะจะรบกวนสายตาและผิดกฎหมายบางพื้นที่
ตั้งเวลาเปิด-ปิดไฟอัตโนมัติ เช่น เปิด 18.00–06.00 น.
ประหยัดไฟและยืดอายุหลอดไฟได้มาก
เลือกไฟที่มีมาตรฐาน IP65 หรือ IP66 สำหรับงานภายนอก
ทนฝน ทนแดด ป้องกันฝุ่นและละอองน้ำ
การเลือกไฟส่องป้ายที่ดีไม่ใช่แค่เรื่อง “ความสว่าง”
แต่คือการสร้าง ความน่าสนใจให้แบรนด์ของคุณในทุกเวลา
ไฟ LED คุณภาพดี ติดตั้งมุมถูกต้อง และควบคุมด้วยระบบประหยัดพลังงาน
ช่วยให้ป้ายของคุณ “โดดเด่นกว่าคู่แข่ง” และ “ลดค่าไฟระยะยาว” ได้จริง
ร้านทำป้าย